วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จรรยาบรรณวิชาชีพครู


จ รรยา บรรณวิชา ชีพ ค รู และ ลักษณะ ของ ค รูที่ดี
จรรยา บรรณวิชา ชีพ ครู หมา ย ถึง ประ มว ล ควา มประ พ ฤ ติกรรมหรือกิริยา อา กา รที่ ประ กอบวิชา ชีพ ครูคว รประ พ ฤ ติปฏิบัติเพ ื่อรักษา ส่งเสริม เกีย รติคุณ ชื่อเสีย งและ ฐา นะ ของ ค ว า ม เป็น ครู
(ย น ต์ ชุมจิต. 2531 : 131)
สำนักงา น คณะ กรรมกา รกา รศึกษาแห ่งชา ติ ได ้เชิญ ผู้ทรง คุณวุฒิ จำน ว น
หมว ดที่
หมว ดที่
หมว ดที่
หมว ดที่
74 ท่า น เพ ื่อ ร่า ง จรรยา บรรณวิชา ชีพ ครู ใน ระ หว่า ง วัน ที่ 8- 10 เม ษา ย น 2524 ผ ลกา รประ ชุม ที่ประ ชุมเห็น ช อบ ให ้แบ ่ง จรรยา บรรณวิชา ชีพ ครูเป็น 4 หมว ด (คณะ กรรมกา รกา รศึกษา แห ่งชา ติ. 2524 : 3) ดัง นี้ 1 ว่า ด้ว ย อุดมกา รณ์ครู ซึ่งเป็น หัวใจ ของกา รเป็น ครู 2 ว่า ด้ว ยเอกลักษณ์ของ ครู โด ยเน้นให ้เห็น ลักษณะ เฉพาะ ของ ครูที่แต กต่า งจา ก บุคคลใน อา ชีพ อื่น 3 ว่า ด้ว ยกา รรักษา วินัยแห ่ง วิชา ชีพ ครู 4 ว่า ด้ว ย บทบา ทของ ครูต่อบุคคล และ สัง คม
ห ม ว ดที่
1 อุดมกา รณ์ค รู ซึ่งเป็น หัวใจ ของกา รเป็น ค รู ประ กอบด้ว ยคุณลักษณะ ดัง นี้
1.
ศรัทธา ใน อา ชีพ ครู อุทิศต น เพ ื่อศิษย์ และ กา รศึกษา
2.
ธำรงแล ะ ส่ง เ ส ริมเกีย รติแห ่ง วิชา ชีพ ครู
3.
บำเพ็ญ ต น เ พื่อประ โย ชน์ส่ว น ร ว มมา กกว่า ส่ว น ต น
4.
ยึ ดมั่นใน คุณธ รรม มีใจ รัก แล ะเมตตา ต่อศิษย์
5.
มีจิตใจ เป็น ประ ชา ธิปไต ย
6.
ยึ ดมั่นใน ศา สนา พระ มหา กษัตริย์
ห ม ว ดที่
2 เอกลักษ ณ์ของ ค รู โด ยเน้นให ้เห็น ลักษณะ เฉ พาะ ของ ค รูที่แต ก ต่างจา กบุค ค ล ใน อา ชีพ อื่น ประ กอบ ด้ว ยคุณลักษณะ ดัง นี้
1.
ดำร ง ต น อย่า งเรีย บง่า ย ประ หยัด เห มาะ ส มกับอา ชีพ ครู
2.
มีอา รมณ์มั่น คง และ สามา รถคว บคุมอา รมณ์ทั้งใน และ น อกเว ลา ที่ส อน
3.
มีสัจจะ ควา มจริงใน ควา มรั บผิดชอบต่อหน้า ที่ครู และ ต่อต น เอง สา มา รถ ร่ว มงา นเป็น หมู่คณะ ได้
4.
เป็น ผู้มีวัฒน ธ รรม มีศีล ธ รมตา มศา สนา ที่ต นนับถือ และ เป็น ตัว อย่า ง ที่ดี ของ ศิษย์
5.
เป็น ค น ต รงเว ลา ประ พ ฤ ติต น ส ม่ำเสมอ
6.
เป็น ผู้มีวา จาสุภา พ อ่อนโย นและ แต ่งกา ยเรีย บร้อยเห มาะ ส ม
7.
ใฝ ่หา ควา ม รู้ สำร ว จและ ปรับปรุงแก ้ไข ต นเองและ งา น ส อ น อยู่เสมอ
8.
กระ ตือรือร้น ขยัน หมั่นเพีย รและ ตั้งใจ ใช ้กลวิธีส อนให ้ศิษย์ เกิดควา มรู้จนเป็น แบ บอย่า งกา รส อ น ที่ดี
9.
มีคว า ม คิดริเร ิ่มและ นำสิ่งให ม่ ๆ มา ใช ้ส อ น ศิษย์
10.
รู้จักผ่อน ปรน ต่อปัญหา ต่า ง ๆ ที่เก ี่ย ว กับง า น ครู และ หา ทา ง แก้ไข โด ย สัน ติวิธีเป็น พ ลเมือง ดี
12.
ให ้เกีย รติโด ยไม ่เลือกเช ื้อชา ติ ศา ส น า ฐา นะ ครอบครัว เพศและ วัย
13.
เป็น ผู้มีใจ กว้า ง แล ะ มีน้ำใจ นักกีฬา รับฟัง ควา มคิดเห็น ของ ศิษย์ และ เปิดโอ กา สให ้ศิษย์ ได ้ปรึกษา หา รืออย่า ง ส ม่ำเสมอ
14.
เอาใจ ใส ่ต่อก า ร เ รีย น ควา มประ พ ฤ ติ และ ควา มเป็น อยู่ของ ศิษย์อยู่เสมอ
15.
เข้าใจ ถึง ควา มแต กต่า ง ร ะ หว่า ง บุคคล ของ ศิษย์
16.
เป็น ผู้เห็น ศิษย์มีควา มสำคัญ และ พิจา รณา คุณค่า ของ ศิษย์แต ่ละ คน ด้ว ยเหตุผ ล
17.
เป็น ผู้ที่น่าเค า ร พ รัก และ ทำให ้ศิษย์ เกิดควา มอบอุ่นใจ
18.
มีควา มยุติธ รรม และ ตัดสินใจ หรือล งโท ษศิษย์อย่า ง มีเหตุผ ล
19.
เป็น ผู้คว รแก ่กา รย กย่อง นับถือใน เชิง ภูมิปัญญา และ เชา ว์ ไห ว พ ริบใน ด้า นกา รอบรม สั่ง ส อน
20.
สา มา รถ อรรถา ธิบา ยเร ื่องยา กให ้เข้าใจ ง่า ย
ห ม ว ดที่
3 ว่ าด้วยกา รรักษาวินัยแห ่ง วิชา ชีพ ค รู
1.
รักษา ควา มลับของ ศิษย์ เพ ื่อน ร่ว มงา นและ ส ถ า น ศึกษา
2.
ไม ่แส ดง อากา รอา ฆา ต พยา บา ล ต่อศิษย์
3.
เข้า ส อนโด ยสม่ำเสมอ ไม ่ปิดบัง หรือบิดเบือน เน ื้อหา สา ระ ทา ง วิชา กา ร
4.
สุภา พเรีย บร้อย เช ื่อฟัง และ ไม ่แส ดง ควา มกระ ด้า ง กระ เด ื่อง ต่อ ผู้ บัง คับบัญชา ซึ่ง สั่งใน หน้า ที่กา รงา นโด ย ชอบด้ว ย กฎหมา ย แล ะระ เบีย บแบ บแผ น ของ สถา น ศึกษา
5.
ต้อง ถือและ ปฏิบัติตา มแบ บธ รรมเนีย มที่ดีของ สถา น ศึกษา
6.
ตั้งใจ ปฏิบัติหน้า ที่ของ ต นให ้เกิดผ ล ดีด้ว ยกา รเอา ใจ ใส ่ ระ มัดระ วัง รักษา ผ ล ประ โย ชน์ ของ ส ถ า น ศึกษา
7.
ไม ่ละ ทิ้ง หน้า ที่ด้า นกา รส อ น และ งา น ที่ได ้รับมอบหมา ย ต ล อดจน อุทิศเว ลา ของ ต นให ้กับสถา น ศึกษา
8.
รักษา ควา มสา มัคคี ชื่อเสียง ของ คณะ และ สถา น ศึกษา ที่สัง กัดอยู่
9.
ปฏิบัติหน้า ที่อย่า ง จริง จัง ด้ว ยควา มรับผิดช อบและ เ สีย สละ
10.
ให ้เกีย รติแก ่เพ ื่อน ร่ว มอา ชีพ และ บุคคล ทั่วไป
11.
ไม ่ล บหลู่ดูหมิ่นศา สนา
12.
รักษา ควา มลับของเพื่ อน ร่ว มงา น และ สถา น ศึกษา
13.
รักษา และ ส่งเสริมควา มสา มัคคีของ หมู่คณะ
14.
ไม ่นำหรือย อมให ้นำผ ล ง า นทา ง วิชา กา รของ ตนไป ใช ้ใน ทา ง ทุจริต หรือ เป็น ภัย ต่อมนุษยชา ติ
15.
ไม ่นำผ ล ง า นของ ผู้อื่นมา แอ บอ้า งเป็นผ ลงา น ของ ต น
16.
รักษา ชื่อเสีย ง มิให ้ขึ้น ชื่อว่า ประ พ ฤ ติชั่ว
17.
ประ พ ฤ ติต นและ ปฏิบัติหน้า ที่ด้ว ย ควา มซื่อสัต ย์และ เท ี่ย ง ธ รรม โด ยไม ่ เห็นแก ่ประ โย ชน์ อัน มิชอบ
ห ม ว ดที่
4 ว่ าด้วยบ ทบา ท ของ ค รูต่อบุค ค ล และ สัง ค ม
1.
ยึ ดมั่นใน ชา ติ ศา สนา พ ร ะ มหา กษัต ริย์
2.
ส่งเสริมกิจกรรมใน ระ บอบประ ชา ธิปไต ย
3.
ส่งเสริมควา มสัมพัน ธ์ระ หว่า ง สถา บัน ด้ว ย กันและ ระ หว่า ง สถา บันและ ชุมชน
4.
ส ร้า งแล ะ ส่ง เ ส ริมควา มสา มัคคีอัน ดีระ หว่า ง ครูและ ผู้ปกครอง
5.
ดำร ง ชีวิตแล ะกา รปฏิบัติต นเป็น ตัว อย่า ง ที่ดีชุมชน
6.
รับใช ้สัง คม ด้ว ย ก า ร ส ร้า ง ส รรค์ผ ลงา น ท า ง วิชา กา ร
7.
ใน ปี พ
ครูต้อง มีจรรยา มา รยา ทและ วินัยตา มระ เบีย บประ เพณีของ ครู ดัง ต่อไป นี้
โอ บอ้อมอา รีมีน้ำใจ ต่อผู้อื่น .. 2526 คุรุสภา ได ้มีกา รปรับปรุง จรรยา บรรณวิชา ชีพ ครูขึ้นให ม่ เรีย กว่า ระ เบีย บคุรุสภา พ ว่า ด้ว ย จรรยา มา รยา ทและ วินัย ต า มระ เ บีย บประ เพณีครู” (คุรุสภา พ. 2526 : 2- 3) ซึ่ง มีระ เอีย ดดัง นี้
1.
เล ื่อมใส กา รปกครองระ บอบประ ชา ธิปไต ย อัน มีพระ มหา กษัต ริย์ เป็น ประ มุข ด้ว ย ควา ม บริสุทธิ์ใจ
2.
ยึ ดมั่นใน ศา สนา ที่ต น นับถือ ไม ่ล บหลู่ดูหมิ่น ศ า สนา อื่น
3.
ตั้งใจ ส อ น ศิษย์และ ปฏิบัติหน้า ที่ของ ต นให ้เกิดผ ล ดี ด้ว ย ค ว า มเอา ใจ ใส ่ อุทิศเ ว ล า ข อ ง ต น ให ้แก ่ศิษย์ จะ ละ ทิ้ง หรือทอดทิ้ง หน้า ที่กา รงา น มิได ้
4.
รักษา ชื่อเสีย ง ของ ต น มิให ้ชื่อว่า ประ พ ฤติชั่ว ไม ่ประ พ ฤ ติกา รอันใด จะ ทำให ้เสีย ชื่อเสีย ง และ เกีย รติ ของ ควา มเป็น ครู
5.
ถื อปฏิบัติตา มระ เบีย บ และ แบ บธ รรมเนีย มอัน ดีงา มของ สถา น ศึกษา
6.
ถ่ า ย ทอดควา มรู้โด ยไม ่ปิดบัง อำพรา ง ไม ่นำหรือย อมให ้นำผ ล ง า น ท า ง วิชา กา รของ ต น ไป ใช ้ใน ทา ง ทุจริต หรือเป็น ภัย ต่อมนุษยชา ติ
7.
ให ้เกีย รติผู้ อื่นทา ง วิชา กา ร โด ยไม ่นำผ ลงา น ของ ผู้ใ ดมา แอ บอ้า งเป็น ผ ลงา น ของ ต นและ ไม ่เบีย ดบังใช ้แร งงา น หรือนำผลงา น ของ ผู้อื่นไป เพ ื่อประ โย ชน์ส่ว น ต น
8.
ประ พ ฤ ติอยู่ใน คว า มซื่อสัต ย์สุจริต และ ปฏิบัติหน้า ที่ของ ต น ด้ว ย ควา มเท ี่ย ง ธ รรม ไม ่แส ว งหา ประ โย ชน์ต นเอ ง หรือผู้อื่นโด ย มิชอบ
9.
สุภา พเรีย บร้อย ประ พ ฤ ติต นเป็นแบ บอย่า ง ที่ดีแก ่ศิษย์ รักษา ควา มลับของ ศิษย์ ของ ผู้ร่ว มงา น แล ะ ส ถ า น ศึกษา
10.
คณะ ครุศา ส ต ร์ จุฬา ล ง กรณ์มหา วิทยา ลัย ไ ด้จัดกา รสัมมนา ทา ง วิชา กา ร เร ื่อง
1.
รักษา ควา มสา มัคคีของ ครู และ ช่ว ยเหลือกันใน หน้า ที่กา รงา น คุณธ รรม สำหรับผู้ประ กอบวิชา ชีพ ครู เม ื่อวัน ที่ 25 มกรา คม 2529 และ ได ้กำห น ดขอบเข ต จรรยา บรรณ ของ วิชา ชีพ ครูไว ้ดัง นี้ ( คุรุสภา,2529 : 5-7 ) ตั้งใจ ส อ น ศิษย์ อุทิศเว ลา ใน กา รปฏิบัติหน้า ที่ให ้เกิดผ ล ดี ไม ่ละ ทิ้ง หน้า ที่กา รงา น
2.
หรือเป็น ภัย ต่อมนุษย์ชา ติ
ถ่า ย ทอดวิชา ควา มรู้โด ยไม ่ปิดบัง อำพรา ง ไม ่นำผ ล ง า นทา ง วิชา กา รไป ใช ้ใน ทา ง ที่ทุจริต
3.
ประ พ ฤ ติต นเป็นแบ บอย่า ง ที่ดีแก ่ศิษย์ ผู้ร่ว มงา น และ สถา น ศึกษา
4.
ไม ่แอ บอ้า ง ผ ลงา นทา งทา ง วิชา กา รของ ผู้อื่นมา เป็น ของ ตน และ ไม ่ใช ้แร งงา นหรือนำผ ลงา น ของ ผู้อื่นไป ใช ้เพ ื่อประ โย ชน์ส่ว นตัว
5.
กล่า วโด ย ส รุป หัวใจ สำคัญ ของ จรรยา บรรณครูมี
รักษา ชื่อเสีย ง ของ ต น มิให ้ได ้ชื่อว่า ประ พ ฤ ติชั่ว อันจะ ทำให ้เส ื่อมเ สียเกีย รติของ ครู 3 ประ กา ร คือ ต้อง มีคว า มซื่อสัต ย์ รักและ ปรา รถนา ดี ต่อศิษย์อย่า ง จริงใจ วา ง ต นให ้เป็น ที่นับถือของ ผู้อื่น กา รที่ครูผู้ ใด จะ มีคุณธรรม ดัง กล่า วได ้ จะ ต้อง รู้จัก แล ะ ตีคว า ม วิชา ชีพ ครูให ้ชัดเจ น ก่อน
คุณลักษณะ ที่ดีของ ค รู
คุณลักษณะ ของ ครูที่ดีนั้น มีผู้ กล่า ว ไว้หลา ย ท่า น ใน หลา ยโอ กา ส พระ บา ท ส มเด็จพระ เจ้า อยู่หัว ภูมิพ ล อดุล ยเดชทรง มีพระ รา ชดำรัส พระ รา ชทา นแก ่ครูอา วุโส ประ จำปี พ
.. 2522 ซึ่ง มี ข้อควา มที่แส ดง ถึง คุณลักษณะ ที่ดีของ ครูที่ดีไว ้ดัง นี้
ครูที่แท ้นั้นเป็น ผู้กระ ทำแต ่คว า ม ดี คือต้อง ขยันและ อุต สาหะ พา กเพีย ร เอ ื้อเฟ ื้อเผ ื่อแผ ่ และ เสีย สละ ต้อง หนักแน ่น อด ก ลั้น และ อดทน ต้อง รักษา วินัย สำร ว มระ วัง ควา มประ พ ฤ ติและ ปฏิบัติต นให ้อยู่ใน ระ เบีย บแบ บแผ น ที่ดีงา ม ต้อง ปลีกตัว ปลีกใจ จา กควา มสะ ดว กสบา ย และ ควา ม ส นุกรื่นเริง ที่ไม ่ส มคว รแก ่เกีย รติภูมิของ ต น ต้อง มั่นใจ ให ้มั่น คงและ แน ่วแน ่ ต้อง ซื่อสัต ย์ รักษา ควา มจริงใจ ต้อง เ ม ต ต า หวัง ดี ต้องวา งใจ เป็น กลา ง ไม ่ปล่อยไป ตา มอำนา จอคติ ต้อง อบรมปัญญา ให ้เพ ิ่มพูน ส มบูรณ์ขึ้น ทั้งใน ด้า น วิทยา กา ร และ ควา มฉลา ด รอบรู้ใน เหตุและ ผ ล ” (คุรุสภา, 2524 : 3)
พระ พุทธทา ส ภิกขุ
( 2530 : 1- 27 ) ได ้บรรยา ยเร ื่อง ธ รรมะ สำหรับครูระ หว่า ง วัน ที่ 4-9 กันยา ยน 2527 ณ ส ว นโม กขพลา รา ม จัง หวัดสุรา ษฎร์ธา นี ซึ่ง มีควา มบา ง ต อนแส ดง ถึง คุณลักษณะ ของ ครูที่ดีไว ้ดัง นี้
ครูใน ฐา นะ ที่ได ้รับกา รย กย่อง ว่าเป็น ปูชนีย บุคคล คว รกอร์ปด้ว ย คุณธ รรมของ ครู คือเปิด ประ ตูทา ง วิญญา ณของโล กที่ปิดด้ว ย อวิชชา ให ้ออก ม า สู่แส ง ส ว่า ง และ อิส รภา พทา ง จิตมีลั กษณะ สูง ส่งใน แง ่คุณธรรม มีหน้า ที่พัฒนา มนุษย์ให ้เป็นใน ทา ง ที่ถู กทุกวิถี ทา ง มีจิตใจ เป ี่ย มด้ว ยเมตตา กรุณา แล ะ ปัญญา ทำบุญ คุณและ มีประ โย ชน์แก ่โล กอย่า ง มหา ศา ลโด ยได ้รับประ โย ชน์ต อบแท น เพีย งเล ี้ย ว ชีวิต ได้ ครูต้อง ส ร้างเด็กให ้มีส ติปัญญา มีเหตุผ ล ช่ว ยให ้เขา หลุดพ้นจา กสัญชา ติญา ณ อย่า ง สัต ว์ สา มา รถ ส ร้า ง บ้า น ส ร้า งชา ติและ สัง คมโล ก เป็น พุทธมา มกะ ที่ส มบูรณ์ รู้จักรับผิดช อบชั่ว ดี เช ื่อฟัง บิดา มารดา และ ให ้เข า รู้จักว่า ไท” (อิสระ จา กกิเลส) “มัชฌิม” (ทา งสา ย กลา ง อริย มรรค) “โช คดี” (ทำดีทา งกา ย วา จา ใจ) “เกีย รติ” (รู้ว่า ต นเอ ง ได้ทำดีถู กต้อง มีคุณค่า คว รแก ่กา ร ภา คภูมิใจ)
พระ รา ชนัน ทมุ นี
(2525 : 3- 4) ได ้นำหลักธ รรมใน พุทธศา สนา เก ี่ย ว กับพระ ก รุณา ธิคุณของ พระ พุทธเจ ้า ซึ่งแส ดง ถึง คุณลักษณะ ของ ผู้อบรมสั่ง ส อ น ที่เป็นเลิศ ดัง นี้
พระ พุทธศา สนา ถื อว่า ควา มสัมพัน ธ์ระ หว่า ง ผู้ส อนและ ผู้เรีย น นั้น อยู่ใน ฐานะ เป็น กัลยา นิมิต ร คือเป็น ผู้ ช่ว ยเหลือ แนะ นำ ผู้เรีย นให ้ดำเนิน ก้า ว หน้าไป ใน มรรคแห ่งกา รฝึกอบรม ซึ่ง มี ลั กษณะ 7 ประ กา รดัง นี้ คือ ปิโย คือ กระ ทำต นให ้เป็น ที่น่า รัก เป็น ที่น่าไว ้วา งใจ ครุ คือ น่า เคา รพ ทำให ้ศิษย์เกิดควา มอบอุ่น ภา ว นิโย คือ น่า ย กย่อง ทรง คุณควา มรู้ ภูมิปัญญา อย่า งแท ้จริง วัตตา คือ รู้จักระ เบีย บแบ บแผ น ทั้งกา ยแล ะวา จา วัจนักนโม คือ อดทน ต่อพ ฤ ติกรรมของ ศิษย์ คัมภีรัน ญกะ ถัง กัตตา คือ มีคว า มสา มา รถ ชี้แจ งเร ื่อง ต่า ง ๆ ที่ลึ กซึ้งได ้ โน จัตถา เน นิโย ชะ เย คือ ไม ่ชักจูง ศิษย์ไป ใน ทา ง ที่เส ื่อมเสีย
คณะ กรรมกา รข้ารา ชกา รครู
(2529 : 12) จัดประ ชุมสัมมนา เร ื่อง กา รปฏิรูปกา รฝึกหัดครู ตา มโค รงกา รพัฒนา ศึกษา อาเซ ี่ย น เม ื่อวัน ที่ 24- 27 ธันวา คม 2524 และ ได ้ส รุปลักษณะ ของ ครูที่พึง ประ ส ง ค์ ไว ้ดัง นี้
1.
มีควา มเป็น ครู คือ ทำต นเองเป็น ตัว อย่า ง ที่ดี มีเมตตา ปรา ณี รักอา ชีพ ครู ใฝ ่รู้ โล ก ทัศน์กว้า ง รับผิดชอบต่อหน้า ที่ย อมรับกา รเปลี่ย นแป ล ง มีวุฒิภา วะ ยุ ติธ รรม มีชีวิต ที่ส ง บ และ เรีย บง่า ย มีบทบา ทใน กา รช่ว ยเหลือชุมชนมา กขึ้น
2.
มีควา มรู้ใน ด้า น ต่อไ ปนี้ คือ
2.1
วิชา เฉพาะ อย่า ง ลึกซึ้งเห มาะ ส มกับระ ดับกา รศึกษา ที่จะ ส อน
2.2
วิชา ครู วิทยา ก า ร ก า รจัดกา ร จิต วิทยา ที่เก ี่ย ว ข้อง กับก า ร เ รีย นกา รส อน กา รวิจัย กา รประ เมิน ผ ล
2.3
ควา มรู้ทั่ว ไป โด ยเฉ พาะ เร ื่องกา รส่งเสริมศิลปะ วัฒน ธ รรม และ กา รอนุรักษ์ ธ รรมชา ติ
3.
ฝ่ า ย พัฒนา ข้ารา ชกา รครู กอง วิชา กา รบริหา รงา น บุคคล คณะ กรรมกา รข้ารา ชกา รครู
มีควา มสามา รถใน วิธีส อน วิธีอบรมและ กา รพัฒนากา รเป็น ผู้นำ ผู้ ตา ม และ ผู้ ประ สา นงา น ที่ดีโด ยได ้รับกา รฝึกปฏิบัติเห มาะ ส มจนเกิดเป็น ทักษะ (2529 : 1) ได ้กำ ห น ดคุณลักษณะ ของ ครูที่สา มา รถ ปฏิบัติงา นได ้อย่า ง มีประ สิทธิภา พไว ้ดัง นี้ คือ ส อ น ดี มีระ เ บีย บ เพีย บคุณธ รรม นำ สัง คมพ ร้อมกับกา รกำห น ดคุณลักษณะ ดัง กล่า ว เพ ื่อพัฒนา วินัย และ จริย ธ รรมสำหรับข้ารา ชกา รครู 6 เร ื่อง คือ
1.
กา รปฏิบัติกา รส อ น ที่มีคุณภา พ : ต ร ง เวลา
2.
กา รปฏิบัติกา รส อ น ที่มีคุณภา พ : กา รแส ดง หาทา งให ม่ ๆ ใน กา รเรีย นกา รส อน
3.
กา รปฏิบัติกา รส อ น ที่มีคุณภา พ : กา รคํ า นึง ถึง ผ ล ที่จะ เกิดกับผู้เรีย น
4.
กา รปฏิบัติตา มระ เบีย บของทา งรา ชกา ร
5.
กา รประ พ ฤ ติเป็นแบ บอย่า ง ที่ดี
6.
คณะ อนุกรรมกา รส่งเสริมวิชา ชีพ ครู
กา รมุ่ง มั่นใน กา รทำประ โย ชน์แก ่สัง คม (คุรุสภา. 2532 : 1) ได ้ประ กา ศเกณฑ์มา ต รฐา น วิชา ชีพ ครูเม ื่อเดือน สิงหา คม 2532 โด ย กำหนดว่า ครูคว รมีคุณลักษณะ พื้นฐา น อย่า ง น้อย 4 ประ กา รคือ
1.
รอบรู้ คือ จะ ต้อง มีควา มรู้เก ี่ย ว กับสภา พเศรษฐ กิจสัง คมโด ย ทั่วไป และ รอบรู้เร ื่องรา ว เก ี่ย ว กับอา ชีพ ของ ต น
2.
ส อ น ดี คือ สา มา รถ ทำกา รส อนได ้อย่า ง มีประ สิทธิภา พ
3.
มีคุณธ รรม จรรยา บรรณ คือ มีศรัทธา ใน อา ชีพ ของ ต น ตั้งใจ ใช ้ควา มรู้ควา มสา มา รถ ใน อา ชีพ เพ ื่อเยา ว ชนและ สัง คมมีควา มซื่อสัต ย์ มีควา มรับผิดช อบต่ออา ชีพ และ มีควา มรักษา ปรา รถนา ดีต่อเยา ว ชน ต ล อดจน อุทิศเว ลา ให ้กับศิษย์
4.
จา กกา รศึกษา พระ บรมรา โช วา ทของ พระ บา ทส มเด็กพ ระเจ้า อยู่หัว ทัศนะ ของ ผู้ ทรง คุณวุฒิ ต ล อดจน จรรยา บรรณครูและ งา น วิจัย ที่เก ี่ย ว ข้อง นำมา ส รุปจะ ได ้คุณลักษณะ ทา ง จริย ธ รรมครู รว ม
มุ่ง มั่น พัฒนา คือ ปรับปรุง ต น เ อง ใฝ ่ศึกษา หา ควา มรู้ คิดค้น ห า ควา มรู้ที่ทัน ส มัย อยู่ เสมอ 6 ด้า น ดัง นี้
1.
ควา มซื่อสัต ย์
2.
ควา มรับผิดชอบ
3.
ควา มเมตตา กรุณา
4.
ควา มเสีย สละ
5.
ควา มยุติธ รรม
6.
คุณลักษณะ ทา ง จริย ธ รรมทั้ง
กา รรักษาระ เบีย บวินัย 6 ด้า น นั้น โก วิท ประ วา ล พ ฤ กษ์ (2528 : 582 – 592) ได ้ให ้ ควา มหมา ยไว ้ดัง นี้
1.
ควา มซื่อสัต ย์ หมา ย ถึง กา รประ พ ฤ ติปฏิบัติอย่า งเหมาะ ส มแล ะ ต ร ง ต่อควา มเป็น จริง ประ พ ฤ ติปฏิบัติอย่า ง ต รงไป ต รงมา ทั้งกา ย วา จา ใจ ต่อต น เ อง และ ต่อผู้อื่น แส ดง ออกเป็น พ ฤ ติกรรมได ้ดัง ต่อไป นี้
1.1
ถ่ า ย ทอดควา มรู้โด ยไม ่ปิดบัง อำพรา ง
1.2
ไม ่เบีย ดบังแร งงา น หรือนำผ ลงา น ขอผู้อื่น มาเป็น ของ ต น
1.3
ไม ่เบีย ดบัง ทรัพ ย์สิน ส่ว น ร ว ม หรือส่ว น ราชกา รไป ใช ้เพ ื่อประ โย ชน์ส่ว น ต น หรือ พ ว กพ้อง
1.4
ไม ่อว ดอ้า ง ควา มสา มา รถเกิน ควา มจริง
1.5
ไม ่นำ หรือย อมให ้นำผลงา นทา ง วิชา กา รของ ต นไป ใช ้ใน ทาง ทุจริต หรือเป็น ภัย ต่อ มนุษยชา ติ
1.6
ใช ้เว ลา รา ชกา รเพ ื่อประ โย ชน์ทา ง ร า ชกา รอย่า ง เต็มที่
1.7
ไม ่ชักชว น ศิษย์กระ ทำใน สิ่ง ที่เส ื่อมเสีย
1.8
เข้า ส อน และ เ ลิกส อนตา มเวลา ที่กำ ห น ด
1.9
ไม ่ประ จบ ส อ พ ล อผู้บัง คับบัญชา เพ ื่อประ โย ชน์ส่ว น ต น
1.10
ปฏิบัติหน้า ที่อย่า ง ดี ทั้ง ต่อหน้าและ ลับหลัง ผู้บัง คับบัญชา
1.11
เป็น บุคคล รักษา คำมั่น สัญญา
2.
ควา มรับผิดชอบ หมา ย ถึง ควา มมุ่ง มั่น ตั้งใจ ปฏิบัติหน้า ที่ด้ว ย ควา มผูกพัน พา กเพีย ร และ ละ เอีย ดรอบคอบ ย อมรับผ ล กระ ทำใน กา รปฏิบัติหน้า ที่เพ ื่อให ้บรรลุผ ล สำเร็จตา มคว า มมุ่ง หมา ย ทั้ง พยา ยา มที่จะ ปรับปรุงกา รปฏิบัติหน้า ที่ให ้ดียิ่ ง ขึ้น แส ดง ออกเป็น พ ฤ ติกรรมดัง นี้
2.1
เตรีย มกา รส อ น อย่า ง ดี
2.2
ดูแล ซ่อมแซ ม ปรับปรุง อุปกรณ์ และ สถา น ที่ของทา งรา ชกา รอยู่เสมอ
2.3
แส ว งหา แน วทา ง วิธีกา รปรับปรุงใน งา น ที่รับผิดชอบอยู่เสมอ
2.4
ค้น คว้าหา ควา มรู้ให ม่อยู่เสมอ
2.5
ไม ่เพิกเฉยใน เหตุกา รณ์ที่จะ ทำให ้เกิดผ ลเสีย ต่องา นรา ชกา ร
2.7
มีควา มละ เอีย ด รอบคอบใน กา รทำงา น
2.8
อดทน ต่อปัญหา ต่า ง ๆ ใน กา รทำงา น โด ยไม ่ละ ทิ้งแล ะ ท้อถ อยโด ย ง่า ย
2.9
อดทน ต่อพ ฤ ติกรรมที่ยั่ ว ยุของ ศิษย์ ไม ่แส ดง ควา มโก รธโด ย ง่า ย
2.10
ย อมรับผ ลกา รกระ ทำ ของ ต น
2.11
รู้จักหน้า ที่และ ปฏิบัติหน้า ที่อย่า ง เต็มกำ ลัง ควา มสา มา รถ
2.12
ให ้ควา มร่ว มมือใน กิจกา รของ สถา บันเป็น อย่า ง ดี
2.13
ผ่ อน ปรน ต่อปัญหา ต่า ง ๆ และหา ทา งแก ้ไข โด ย วิธีทา ง ปัญญา และ สัน ติวิธี
2.14
ใช ้ทรัพ ย์สินรา ชกา รอย่า ง ประ หยัด
3.
ควา มเมตตา กรุณา เมตตา หมา ย ถึง คว า ม รักใค ร่ ปรา รถนา จะให ้ผู ้อื่นเป็น สุข กรุณา หมา ย ถึง ควา มส งสา รคิดจะ ช่ว ยให ้ผู้ อื่น พ้น ทุกข์ แส ดง ออกเป็น พ ฤ ติกรรมได ้ดัง ต่อไป นี้
3.1
ส นใจ เอาใจ ใส ่ศิษย์ที่มีปัญหา อย่า ง ส ม่ำเสมอ
3.2
ชักนำให ้ศิษย์ประ พ ฤ ติแต ่สิ่ง ที่ดีงา ม
3.3
ให ้โอ กา สกับศิษย์ได ้แก ้ตัว ต่อกา รกระ ทำ ที่ผิ ดพลา ด
3.4
ให ้กำ ลังใจ แก ่ศิษย์โด ยเฉ พาะ ศิษย์ที่มีปัญหา
3.5
ให ้ควา มอนุเค ราะ ห์กับศิษย์และ บุคคล ทั่วไป ตา มส มคว รกับฐา น ะ
3.6
ไม ่ใช ้ถ้ อย คำ หรือแส ดง กริยา ข่มขู่ศิษย์และ ผู้อื่น
3.7
ไม ่ใช ้ถ้ อย คำ หรือแส ดง กริยา ดูหมิ่นเสีย ดเสีย ศิษย์ และ ผู้อื่น
3.8
ไม ่แส ดง กริยา อา ฆา ต พยา บา ทต่อศิษย์และ ผู้อื่น
3.9
มีบุคลิกภา พ ยิ้มแย ้มแจ ่มใส อยู่เสมอ
3.10
ให ้ควา มเป็น กันเอ ง กับศิษย์และ ผู้อื่น อยู่เสมอ
4.
ควา มเสีย สละ หมา ยถึ ง กา รละ ควา มเห็นแก ่ตัว กา รให ้ปันแก ่คน ที่คว รให ้ด้ว ย กำลัง กา ย กำ ลัง ทรัพ ย์ กำ ลัง ส ติปัญญา รว มทั้งกา รรู้จักส ลัดทิ้งอา รมณ์ร้า ยใน ต นเอ ง ด้ว ย แส ดง ออกเป็น พ ฤ ติกรรมได ้ดัง ต่อไป นี้
4.1
ร่ว มกิจกรรมที่ก่อให ้เกิดกา รพัฒนา ทา งกา รศึกษา กับศิษย์ทั้งใน และ น อกเว ลา รา ชกา รอยู่เสมอ
4.2
ให ้คำปรึกษา กับศิษย์ใน ปัญหา ต่า ง ๆ ทั้งใน และ น อกเวลารา ชกา รอยู่เสมอ
4.3
แบ ่ง ปัน ทรัพ ย์สินตา มส มคว ร เพ ื่อใ ห้กิจกา รของ ศิษย์หรือสถา บัน ประ ส บ ควา มสำเร็จ
4.4
ช่ว ยเจรจา เป็น ธุระ ใน กิจก า รของ ศิษย์และ สถา บันให ้สำเร็จประ โย ชน์
4.5
ให ้อภัย ผู้อื่น ไม ่แส ดงกา รอา ฆา ต พ ยาบา ท
4.6
ใจ กว้า ง รับฟัง ควา มคิดเห็น ผู้อื่น
4.7
มีเหตุผ ล ไม ่ง มงา ยใน ควา มเชื่อของ ตน
5.
ควา มยุติธ รรม หมา ย ถึง กา รปฏิบัติด้ว ย ควา มเท ี่ย ง ต รง ส อดคล้อง กับควา มเป็น จริง และ เหตุผ ล ไม ่มีควา มลำเอีย ง แส ดง อกเป็น พ ฤ ติกรรมได ้ดัง ต่อไป นี้
5.1
ให ้ควา มรู้แล ะกา ร บริกา รต่า ง ๆ แก ่ศิษย์โด ยไม ่แบ ่งเช ื้อช า ติ ศา สนา เพศ หรือ ควา มสัมพัน ธ์ส่ว น ตัว
5.2
ตรว จผลงา นและ ให ้คะ แน น ต า ม ค ว า ม เ ป็น จริง ด้ว ย ค ว า มเท ี่ย ง ธ รรมและ มีเหตุผ ล
5.3
ใช ้หลักวิชา ที่ถู กต้อง ใ น ก า รประ เ มิน ผ ลกา รศึกษา อย่า ง ส ม่ำเ ส มอ
6.
กา รรักษา วินัย หมา ย ถึง กา รคว บคุมควา มประ พ ฤ ติปฏิบัติให ้ถู กต้องแล ะ เ หมาะ ส มกับ จรรยา มา รยา ท ข้อบัง คับ ข้อต ก ล ง กฎหมา ย และ ศีล ธ รรม แส ดง อกเป็น พ ฤ ติกรรมได ้ดัง ต่อไป นี้
6.1
แต ่งกา ยเหมาะ ส มกับอา ชีพ ครู
6.2
วา จา สุภา พ
6.3
รักษา ควา มลับของ ศิษย์ เพ ื่อร่ว มงา น และ สถา น ศึกษา
6.4
ต ร ง ต่อเว ลา
6.5
ดูแล จัดอุปกรณ์ทา งกา รศึกษา และ สถา น ที่ทำงา น สะ อา ดเป็นระ เบีย บเรีย บร้อย
6.6
ไม ่สูบบุหรี่
6.7
ไม ่ดื่มสุรา
6.8
ไม ่เล่นกา รพ นัน
6.9
ไม ่ประ พ ฤ ติผิ ดทา งเพศ
6.10
ให ้ควา มร่ว มมือกับกิจกรรมของ สถา น ศึกษาเป็น อย่า ง ดี
จ รรยา บรรณค รูวิ ทยา ลัยใน สัง กัดกระ ท รวงสา ธา รณสุข
1.
2.
3.
ครูพึง ปฏิบัติต นตา มแน วทา ง พระ รา ชดำรัส ของ ส มเด็จพระ รา ชบิดา ที่ว่า ขอให ้ถื อ ประ โย ชน์ส่ว น ต นเป็น กิจที่ส อง ประ โย ชน์ของเพ ื่อน มนุษย์เป็น กิจที่หนึ่งครูต้องเป็น ค น ดีตา มแน วทา ง พระ รา ชดำรัส ของ ส มเด็จย่า ที่ว่า ไม ่พูดปด ไม ่ส อ พ ล อ ไม ่อิจฉา ริษยา ไม ่คดโก ง และ พยา ยา มทำ หน้า ที่ของ ต นเองให ้ดี ใน ขอบเข ต ศีล ธ รรมครูพึง ปฏิบัติต นเป็น พ ลเมือง ที่ดีของ สัง คมและ ระ บอบกา รปกครองแบ บประ ชา ธิปไต ย โด ย มุ่งเสริมควา มมั่น ค ง ของชา ติ ศา สนา แล ะ สถา บัน กษัต ริย์
4.
ครูพึง ประ พฤติ ปฏิบัติต น เป็น ผู้นำใน กา รอนุรักษ์ และ พัฒนา ภูมิปัญญา และ วัฒน ธ รรมไท ย พึง ช่ว ยเหลือเก ื้อกูล ชุมช นใน ทา ง ส ร้า ง ส รรค์ ส นับส นุน กิจกรรมที่ก่อให ้เกิดสัน ติสุข และ ย กระ ดับคุณภา พ ชีวิต
5.
ครูพึง ร่ว มมือแล ะ เ ป็นเครือข่า ย กับสมา ชิกด้า น สุขภา พ อนา มัยและ บุคคล อื่น ๆ ใน สัง คม เพ ื่อส่งเสริมชุมชนและ ส น อ ง ต อบควา มต้องกา รด้า น สุขภา พ อนา มัย ของ สัง คม
6.
ครูพึง ปฏิบัติงา น ด้ว ย ควา มมีส ติ ตระ หนักใน คุณค่าแล ะ ศักดิ์ศรีของ ควา มเป็น มนุษย์ ปฏิบัติต่อประ ชา ชน ด้ว ย ควา มเสมอภา คตา มสิทธิมนุษย ชน โด ยไม ่คำนึง ถึง เช ื้อชา ติ ศา ส น า และ สถา นภา พ ของบุ คคล
7.
ครูต้อง รักแล ะเมตตา ศิษย์ โด ยให ้ควา มเอา ใจ ใส ่ช่ว ยเหลืออบรม สั่ง ส อน ส ร้า งเสริม ควา มรู้ ฝึ กฝ น ทักษะ และ นิสัย ที่ถู กต้อง ดีงา ม ส่งเสริมให ้กำลังใจ ใน กา รศึกษา เล่าเรีย นแก ่ศิษย์โด ย เสมอหน้า ให ้เกิดแก ่ศิษย์อย่า งเต็มควา มสา มา รถ ด้ว ย ควา มบริสุทธิ์ใจ
8.
ครูต้อง ประ พ ฤ ติ ปฏิบัติต นเป็นแบ บอย่า ง ที่ดีแก ่ศิษย์ทั้งทา งกา ย วา จา และ จิตใจ
9.
ครูต้องไม ่กระ ทำต นเป็น ปฏิปักษ่อควา มเจริญทา งกา ย ส ติปัญญา จิตใจ อา รมณ์และ สัง คมของ ศิษย์
10.
ครูต้องไม ่แส ว งหา ประ โ ย ชน์อันเป็น อ า มิส สิน จ้า งจา กศิษย์ใน กา รปฏิบัติหน้า ที่
11.
ครูย่ อมพัฒนา ต นเอ ง ทั้งใน ด้า น วิชา ชีพ ด้า น บุคลิกภา พ และ วิสัย ทัศน์ ให ้ทัน ต่อกา ร พัฒนาทา ง วิทยา กา ร เศรษฐ กิจ สัง คม และ กา รเมือง อยู่เสมอ
12.
ครูย่ อมรักและ ศรัทธา ใน วิชา ชีพ ครูและ เป็น สมา ชิกที่ดีของ สถา บันและ อง ค์กรวิชา ชีพ
สรุปข้อกฎ หมา ย ห ลักเกณฑ์ แล ะ ขั้น ตอนเก ี่ยวกับ
กา รดำเนินกา รทา ง วินัยและ กา รลงโท ษทา ง วินัยแก่ข้ารา ชกา รและ ลูกจ้าง ประ จำ
อำนา จใน กา รดำเนินกา รทา ง วินัยและ กา รลงโท ษทา ง วินัย
ผู้ มีอำนา จใน กา รดำเนินกา รทา ง วินัยและ ล งโท ษทา ง วินัยแก ่ข้ารา ชกา รและ ลูกจ้า ง ประ จำตา มพ ระรา ชบัญ ญัติระ เบีย บข้า ร า ช พ ลเรือน พ
..2535 และ ระ เบีย บกระ ทรว งกา รคลัง ว่า ด้ว ย ลู กจ้า ง ประ จำของ ส่ว นรา ชกา ร พ.. 2537 จะ ต้องเป็น ผู้ บัง คับบัญชา ตา มกฎหมา ย ตา มที่บัญ ญัติ ไว ้ใน พระ รา ชบัญ ญัติระ เบีย บบริหา รรา ชกา รแผ ่น ดิน พ.. 2534 และ ฉบับแก ้ไข เพ ิ่มเติม หรือผู้ที่ ได ้รับมอบหมา ยให ้เป็น ผู้บัง คับบัญชา ตา มพระ รา ชบัญ ญัติระ เบีย บข้ารา ชกา รพ ล เรือน พ.. 2535 มา ตรา 43
สำหรับข้ารา ชกา รและ ลูกจ้า ง ประ จำของ สำนักงา น ปลัดกระ ทรว งสา ธา รณสุขใน รา ชกา ร บริหา รส่ว น กลา ง นั้น ผู้ บัง คับบัญชา ตา มกฎหมา ยตา มพ ระรา ชบัญ ญัติระ เบีย บบริหา รรา ชกา ร แผ ่น ดิน พ
.. 2534 คือ รัฐ ม น ต รีว่ากา รกระ ทรว งสา ธา รณสุข ปลัดกระ ทรว งสา ธา รณสุข และ ผู้ อำน ว ยกา รของส่ว นรา ชกา รใน รา ชกา รบริหา รส่ว น กลา ง (สำนักบริหา รกลา ง ศูน ย์เทคโน โล ยี สา รส นเทศและ กา รสื่อสา ร สำนักต ร ว จและ ประ เมิน ผ ล สำนักนโย บา ย และ ยุทธศา ส ต ร์ และ สถา บัน พระ บรม-รา ชชน ก) ส่ว น ผู้ที่ได ้รับมอบหมา ยให ้เป็น ผู้บัง คับบัญชา ตา มพระ รา ชบัญ ญัติ ระ เบีย บข้ารา ชกา ร พ ลเรือน พ.. 2535 มา ตรา 43 ปลัดกระ ทรว งสา ธา รสุขจะ ต้อง มีคำสั่ง มอบหมา ยให ้เป็น ผู้บัง คับบัญชา เช่น หัว หน้า สำ นักวิชา กา รสา ธา รณสุข หัว หน้า สำนักงา นต ร ว จ ส อบ ภา ยใน และ ผู้อำ น ว ยกา รวิทยา บันใน สัง กัดพ ระบรมรา ชชนก เป็น ต้น (คำสั่ง ส ป.ที่ 4406// 2537 ล ง วัน ที่ 14 ธันวา คม พ.. 2537)
สถา นโท ษทา ง วินัยของ ข้ารา ชกา รและ ลูกจ้าง ป ร ะ จำ
โท ษทา ง วินัย ของ ข้ารา ชกา รและ ลูกจ้า ง ประ จำ มี
5 สถา น ดัง นี้
กรณีกระ ทำผิดวินัยไม ่ร้ายแร ง
(1) ภา คทัณฑ์ (2)
(3)
ตัดเงินเดือน หรือตัดขั้น ค่า จ้า ง (กรณีเป็น ลูกจ้า ง ประ จำ) ล ดขั้นเงินเดือน หรือล ดขั้น ค่า จ้า ง (กรณีเป็น ลูกจ้า ง ประ จำ)
กรณีกระ ทำผิดวินัย อย่า ง ร้า ยแร ง
(1) ปล ดออก (2) ไล ่ออก
ขั้น ตอน ก่อนกา รดำเนินกา รทา ง วินัย
1.
(ตา มมา ตรา 99 ว รรคสี่และ ว รรคห้า) เม ื่อมีกา รกล่า วหา โด ย ปรา กฏ ตัว ผู้กล่า วหา หรือมีกรณีเป็น ที่ส ง สัย ว่า ข้า ร า ชกา รพ ลเรือน สา มัญ ผู้ใด กระ ทำ ผิดวินัยโด ย ยัง ไม่มีพยา น หลักฐา น ให ้ผู้ บัง คับบัญชา รีบดำเนินกา รสืบส ว น หรือ พิจา รณา ใน เบ ื้อง ต้น ว่า กรณีมีมูล ที่คว รกล่า วหา ว่า ผู้นั้น กระ ทำผิดวินัย หรือไม ่ ถ้ า เห็น ว่า กรณีไม ่มีมูล ที่คว รกล่า วหา ว่า กระ ทำผิดวินัย จึงจะ สั่ง ยุติเร ื่อง ไ ด้ แต ่ถ้ าเห็น ว่า กรณีมีมูล ที่คว รกล่า ว ห า ว่า กระทำผิ ดวินัย ก็ให ้ดำเนินกา รทา ง วินัย ทัน ที
2.
เม ื่อปรา กฏ กรณีมีมูล ที่คว รกล่า ว ห า ว่า ข้ารา ชกา รพ ลเรือน สามัญ ผู้ใด กระ ทำ ผิดวินัย โด ย มีพยา น หลักฐา นใน เบ ื้อง ต้น อยู่แล ้ว ให ้ผู้ บัง คับบัญชา ดำเนินกา รทา ง วินัย ทัน ที
ขั้น ตอนกา รดำเนินกา รทา ง วินัย
หลักกา รใ นกา รดำเนินกา รทา ง วินัยแก ่ข้ารา ชกา รพ ลเรือนสา มัญ ซึ่ง มีกรณีอัน มีมูล ที่คว ร กล่า วหา ว่า กระ ทำ ผิดวินัย นั้น พระ รา ชบัญ ญัติระ เบีย บข้ารา ชกา รพ ลเรือน พ
.. 2535 มา ตรา 102 บัญ ญัติไว ้ว่าให ้ส อบส ว นเพ ื่อให ้ได ้ควา มจริงและ ยุติธ รรมโด ยไม ่ชักช้า โด ย ดำเนินกา รดัง นี้
1.
2.
ถ้ าเป็น กรณีกล่า ว ห า ว่า กระ ทำผิดวินัย อย่า งไม ่ร้า ยแร ง ให ้ดำเนินกา รตา มวิธีกา รที่ ผู้ บัง คับบัญชา เห็น ส มคว ร (โด ย ปฏิบัติตา มแน วทา งตา มหนัง สือสำนักงา น ก.. ที น ร 10118 19 ล ง วัน ที่ 14 กรกฎา คม 2547) ถ้ าเป็น กรณีกล่า วหา ว่า กระ ทำ ผิดวินัย อย่า ง ร้า ยแร ง ให ้แต ่ง ตั้ง คณะ กรรมกา รขึ้น ทำกา ร ส อบส ว นและ ใน กา รส อบส ว น นี้ต้องแจ ้ง ข้อกล่า ว หาและ ส รุปพยา น หลักฐา น ที่ส นับส นุน ข้อกล่า วหา เท่า ที่มีให ้ผู้ ถู กกล่า ว ห า ทรา บ โด ยจะ ระ บุหรือไม ่ระ บุชื่อพยา น ก็ได ้ ทั้ง นี้ เพ ื่อให ้ผู้ ถู กกล่า ว ห า ชี้แจ ง และ นำสืบข้อกล่า ว หา เม ื่อดำเนินกา รแล ้ว ถ้ า ยัง ฟังไม ่ได ้ว่า ผู้กล่า ว ห า กระ ทำ ผิดวินัย จึงจะ ยุติเร ื่อง ได ้ แต ่ถ้ า ฟังได ้ว่า ผู้ถู กกล่า วหา ได ้กระ ทำ ผิดวินัย ก็ให ้ดำเนินกา รตา มมา ตรา 103 หรือมา ตรา 104 แล ้วแต ่กรณี
(1)
กรณีตา มมา ตรา 103 คือ ข้ารา ชกา รพลเรือนสา มัญ ผู้ใด กระ ทำผิดวินัย อย่า งไม ่ ร้า ยแร ง ให ้ผู้ บัง คับบัญชา สั่ง ลงโท ษภา คทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือล ดขั้นเงินเดือนตา มคว รแก ่กรณี
(2)
หมา ยเหตุ สำหรับกรณีของ ลูกจ้า ง ประ จำ นั้น ขั้น ต อ น ก่อนกา รดำเนินกา รทา ง วินัยและ ขั้น ต อนใน กา รดำเนินกา รทา ง วินัย ดำเนินกา รเช่นเดีย ว กัน กับกรณีของ ข้า ร า ชกา ร ต่า ง กัน ต ร ง ที่กรณี เป็น ควา มผิดวินัย อย่า ง ร้ายแร ง สา มา รถ สั่ง ล ง โทษได ้ใน ทัน ที โด ยไม ่ต้องเส น อเร ื่องไป ให ้ อ
กรณีตา มมา ตรา 104 คือ ข้ารา ชกา รพล เรื อนสา มัญ ผู้ใด กระ ทำผิดวินัย อย่า ง ร้ายแร ง ให ้ผู้ บัง คับบัญชา สั่ง ล งโท ษปล ดออก หรือไล ่ออกตา มควา มร้า ยแร งแห ่ง กรณี ถ้ า มีเหตุอัน ค ว ร ล ดหย่อน จะ นำมา ประ กอบกา รพิจา รณา ล ดโท ษก็ได ้ แต ่ห้า มมิให ้ล ดโท ษล ง ต่ำ กล่า ว ป ล ดออก ทั้ง นี้ ก่อน ที่จะ มีคำสั่งใด ๆ จะ ต้องเส น อเรื่องให ้ อ... สำนักงา น ปลัดกระ ทรว ง หรือ อ... กระ ทรว ง พิจา รณา กล่า ว คือ กรณีที่คณะ กรรมกา รส อบส ว น หรือ อำนา จสั่ง แต่ง ตั้ง คณะ กรรมกา รกา ร ส อบส ว นเห็น ว่า ข้ารา ชกา รพ ลเรือนสา มัญ ผู้ใด กระ ทำผิดวินัย อย่า ง ร้า ยแร ง ส มคว ร ล งโท ษปล ดออก หรือไล ่ออก ให ้ดำเนินกา รดัง นี้ . สำหรับผู้ดำร ง ตำแห น่ง ตั้ง แต่ระ ดับ 11 ล งมา ถึงระ ดับ 8 และ สำหรับผู้ดำ ร ง ตำแห น่ง ตั้ง แต่ระ ดับ 7 ล งมา ที่กระ ทำผิดวินัย อย่า ง ร้า ยแร ง ร่ว มกัน กับผู้ดำร ง ตำแห น่ง ตั้งแต ่ระ ดับ 8 ขึ้นไป ให ้ผู้ มีอำน า จสั่ง บรรจุตา มมา ตรา 52 ส่งเร ื่องให ้ อ...กระ ทรว งสา ธา รณสุข และ เม ื่อ อ... กระ ทรว งสา ธา รณสุขมีมติเป็น ประ กา รใด ให ้ผู้ มีอำนา จสั่ง บรรจุดัง กล่า ว สั่ง หรือปฏิบัติให ้เป็นไป ตา มนั้น . สำหรับผู้ดำร ง ตำแห น่ง ตั้ง แต่ระ ดับ 7 ล งมา ใน รา ชกา รบริหา รส่ว น กลา ง ให ้ผู้ มีอำนา จ สั่ง บรรจุตา มมา ตรา 52 สั่งให ้ อ... กระ ทรว งสา ธา รณสุข และ เม ื่อ อ... กระ ทรว ง สาธา รณสุข มีมติเป็น ประ กา รใด ให ้ผู้ มีอำนา จสั่ง บรรจุดัง กล่า ว สั่ง หรือปฏิบัติให ้เป็นไป ตา มนั้น ... พิจา รณา ก่อนแต ่อย่า งใด
คำนำ
วิทยา ลัย พยา บา ล บรมรา ชชน นี สุรา ษฎร์ธา นี เป็น สถา บันกา รศึกษา ระ ดับอุดมศึกษา ทำหน้า ที่ใน กา รผ ลิต บุคลา กรทา งกา รพยา บา ล โด ยกา รที่วิทยา ลัยจะ ผ ลิต บัณฑิตที่มีควา มรู้ ควา มสา มา รถให ้เป็น ผู้ประ กอบวิชา ชีพ พยา บา ล ที่ปฏิบัติกา รพยา บา ล อย่า ง มีมา ต รฐา นและ เป็น ผู้มี จริย ธ รรมนั้น ครูพยา บา ลเป็น บุคคล สำคัญ ที่จะ เป็น ต้นแบ บใน กา รปลูกฝัง ควา มมีจริย ธ รรมให ้กับ ศิษย์ เพ ราะ ฉะ นั้น จึง มีควา มจำเป็น อย่า ง ยิ่ง ที่ครูจะ ต้อง มีจรรยา บรรณครูเป็นแน วทา ง ใ นกา รปฏิบัติ ต น เพ ื่อเป็นแบ บอย่า ง ที่ดีแก ่นักศึกษา
วิทยา ลัย พยา บา ล บรมรา ชชน นี สุรา ษฎร์ธา นี จึงได ้จัดทำ คู่มือจรรยา บรรณครูพยา บา ล ขึ้น เพ ื่อใช ้เป็นแน วทา งใน กา รปฏิบัติ และ ปรับเปลี่ย น พ ฤ ติกรรมให ้มีคุณลักษณะ ตา มจรรยา บรรณครู ต่อไป
สา รบัญ
เร ื่อง ห น้า
􀂜
จรรยา บรรณวิชา ชีพ ครูและ ลักษณะ ของ ครูที่ดี
-
หมว ดที่ 1 ว่า ด้ว ย อุดมกา รณ์ครู ซึ่งเป็น หัวใจ ของกา รเป็น ครู
-
ที่แต กต่า ง จ า กบุคคลใน อา ชีพ อื่น
หมว ดที่ 2 ว่า ด้ว ยเอกลักษณ์ของ ครู โด ยเน้นให ้เห็น ลักษณะ เฉพาะ ของ ครู
-
หมว ดที่ 3 ว่า ด้ว ย ก า รรักษา วินัยแห ่ง วิชา ชีพ ครู
-
หมว ดที่ 4 ว่า ด้ว ย บทบา ทของ ครูต่อบุคคล และ สัง คม
􀂜
คุณลักษณะ ที่ดีของ ครู
􀂜
จรรยา บรรณครูวิทยา ลัยใน สัง กัดกระ ทรว งสา ธา รณสุข
􀂜
กา รล งโท ษทา ง วินัยแก ่ข้ารา ชกา รแล ะลู กจ้า ง ประ จำ
ส รุปข้อกฎหมา ย หลักเกณฑ์ และ ขั้น ต อนเก ี่ย ว กับกา รดำเนินกา รทา ง วินัยและ
-
อำนา จใน กา รดำเนินกา รทา ง วินัยและ กา รล งโท ษทา ง วินัย
-
สถา นโท ษทา ง วินัย ของ ข้ารา ชกา รและ ลูกจ้า ง ประ จำ
-
ขั้น ต อ น ก่อนกา รดำเนินกา รทา ง วินัย - ขั้น ต อนกา รดำเนินกา รทา ง วินัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น